วีซ่าญี่ปุ่น
การเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นนั้น ชาวไทยทั้งหลายจำเป็นต้องดำเนินการขอวีซ่าก่อนไม่ว่าจะเดินทางไปด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม
วีซ่านักท่องเที่ยวและวีซ่าสำหรับนักธุรกิจจะมีระเบียบในการยื่นขอวีซ่าไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ถ้าเป็นวีซ่าประเภทอื่นๆ จะมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน และอาจจะต้องเพิ่มเติมเอกสารในการยื่นวีซ่าเป็นกรณีๆ ไป
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าญี่ปุ่น
ควรเตรียมเอกสารประกอบการยื่นวีซ่าให้พร้อมก่อนไปยื่นวีซ่า เพราะทาง JVAC จะไม่รับยื่นหากเอกสารไม่สมบูรณ์ ส่วนเอกสารฉบับจริงที่ใช้ประกอบการยื่นวีซ่า จะได้รับคืนทันทีหลังยื่นคำร้อง
กรณีเคยเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นและพักอยู่ไม่เกิน 15 วัน ซึ่งจะตรวจสอบได้จากตราประทับกองตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่นในหนังสือเดินทาง หากต้องการยื่นวีซ่าญี่ปุ่นสำหรับไปพักไม่เกิน 15 วันอีกครั้ง จะได้รับการยกเว้นเอกสารประกอบการยื่นวีซ่าบางอย่าง (ต้องสามารถแสดงตราประทับเข้า – ออกประเทศญี่ปุ่นครั้งสุดท้ายได้) โดยไม่ต้องแสดงเอกสารข้อ 7 – 9
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าญี่ปุ่นเพิ่มเติม: http://www.jp-vfsglobal-th.com/thai/tourist_documents.html
ค่าธรรมเนียมวีซ่าญี่ปุ่น (ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2556)
ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่น ควรเตรียมค่าธรรมเนียมวีซ่าและค่าดำเนินการของ JVAC ไปให้พอดีในวันยื่นวีซ่า เนื่องจากทาง JVAC จะรับชำระเงินทันทีในวันที่รับคำร้องขอวีซ่า และจะรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น
*ไม่รวมค่าดำเนินการของ JVAC 535 บาท
**สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าญี่ปุ่น (ไม่รวมค่าดำเนินการของ JVAC)
ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่น (JVAC)
สำหรับผู้ที่อยู่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงสามารถยื่นวีซ่าได้ที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่น หรือ JVAC
ทาง JVAC เปิดให้ยื่นคำร้องผ่านที่ทำการไปรษณีย์ในส่วนภูมิภาค 6 แห่ง สามารถไปยื่นคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่นได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามายื่นที่กรุงเทพฯ
สำหรับผู้ที่ทำงานอยู่ใน 9 จังหวัดภาคเหนือ (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ น่าน และอุตรดิตถ์) ต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าที่สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่
ขั้นตอนการยื่นวีซ่าญี่ปุ่น
เมื่อเตรียมเอกสารประกอบการยื่นวีซ่าพร้อมแล้ว ตรวจสอบสถานที่ที่จะต้องไปยื่นวีซ่าให้ถูกต้อง และมั่นใจแล้วว่าไม่ใช่วันหยุดทำการ ก็ดำเนินการยื่นวีซ่าได้เลย ซึ่งหากยื่นวีซ่าที่ JVAC ก็จะมีขั้นตอนดังนี้
1. นำเอกสารที่เตรียมไว้ไปที่ JVAC
2. ยื่นคำร้องและเลือกวิธีการรับหนังสือเดินทางคืน
3. รับเอกสารฉบับจริงคืน
4. ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าและค่าบริการของ JVAC
5. รับใบนัดฟังผล
หากยื่นวีซ่าที่ที่ทำการไปรษณีย์ ต้องกรอก Pay-in-slip เพิ่ม ซึ่งรับเอกสาร Pay-in-slip ได้ที่ที่ทำการนั่นเอง และดำเนินการยื่นวีซ่าตามขั้นตอนเหมือนกับการยื่นที่ JVAC รับสำเนา Pay-in-slip คืน ถือเป็นใบตอบรับการยื่นคำร้องและใบเสร็จรับเงิน ซึ่งสำเนา Pay-in-slip จะระบุหมายเลขบาร์โค้ดของ EMS ทั้งไปและกลับไว้ด้วย
การรับหนังสือเดินทางคืน
ผู้ยื่นวีซ่าญี่ปุ่นสามารถเลือกวิธีการรับหนังสือเดินทางคืนได้หลายวิธี
1. รับที่ JVAC กรุงเทพฯ (กรณียื่นขอวีซ่าที่ที่ทำการไปรษณีย์ สามารถเลือกรับหนังสือเดินทางคืนได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์นั้นๆ) โดยนำใบนัดฟังผล หรือ Pay-in-slip ฉบับจริงไปที่ JVAC
2. รับคืนที่ไปรษณีย์ใกล้บ้านหรือที่ทำงาน (ค่าบริการรวมภาษี 140 บาท) โดยนำ Pay-in-slip ฉบับจริงไปที่ที่ทำการไปรษณีย์
3. รับคืนทางไปรษณีย์ที่บ้านหรือที่ทำงาน (ค่าบริการรวมภาษี 140 บาท)
การติดตามการยื่นคำร้อง
ผู้ยื่นวีซ่าญี่ปุ่นที่ JVAC สามารถติดตามการยื่นคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่นได้ทาง http://www.jp-vfsglobal-th.com/thai/track.html เพียงใส่หมายเลขใบนัดฟังผลและวันเดือนปีเกิดของผู้ยื่นวีซ่า สำหรับผู้ที่ยื่นคำร้องที่ที่ทำการไปรษณีย์ ให้ใส่หมายเลขบาร์โค้ด EMS ขาเข้า แต่ถ้าติดตามแล้วมีข้อความขึ้นว่า “Application handed over to Courier” ให้ไปที่ www.thailandpost.com และใส่บาร์โค้ด EMS ขาออกแทน
วันหยุดทำการของ JVAC ประจำปี 2555
วีซ่านักท่องเที่ยวและวีซ่าสำหรับนักธุรกิจจะมีระเบียบในการยื่นขอวีซ่าไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ถ้าเป็นวีซ่าประเภทอื่นๆ จะมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน และอาจจะต้องเพิ่มเติมเอกสารในการยื่นวีซ่าเป็นกรณีๆ ไป
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าญี่ปุ่น
ควรเตรียมเอกสารประกอบการยื่นวีซ่าให้พร้อมก่อนไปยื่นวีซ่า เพราะทาง JVAC จะไม่รับยื่นหากเอกสารไม่สมบูรณ์ ส่วนเอกสารฉบับจริงที่ใช้ประกอบการยื่นวีซ่า จะได้รับคืนทันทีหลังยื่นคำร้อง
1. | ใบคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่น (Visa Application Form) |
กรอกแบบฟอร์มจำนวน 1 หน้ากระดาษ A4 ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://www.th.emb-japan.go.jp/img/visaform_new.pdf |
2. | แบบสอบถามเพื่อการยื่นขอวีซ่า (Questionnaire) |
กรอกวัตถุประสงค์การเดินทาง และข้อมูลทั่วๆ ไปเล็กน้อย พร้อมลงลายมือชื่อตามหนังสือเดินทาง ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://www.jp-vfsglobal-th.com/thai/PDF/visa_questionaire_thai.pdf |
3. | แบบฟอร์ม Checklist |
กรอกเพื่อตรวจสอบความครบถ้วนสมบูรณ์ของเอกสารประกอบการยื่นวีซ่า ซึ่งสามารถดาวน์โหลด Checklist สำหรับวีซ่าท่องเที่ยวได้ที่ http://www.jp-vfsglobal-th.com/thai/PDF/SightseeingVisitingFriendschecklist.pdf |
4. | หนังสือเดินทาง (Passport) |
หนังสือเดินทางที่ใช้เดินทางไปต่างประเทศได้นั้นควรมีอายุการใช้งานคงเหลืออย่างน้อย 6 เดือน และในการยื่นขอวีซ่าญี่ปุ่นจะต้องมีหน้าว่างที่ยังไม่มีการประทับตราใดๆ มากกว่า 2 หน้าขึ้นไป ควรตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนที่จะเดินทางไปยื่นวีซ่า มิฉะนั้นจะต้องเสียเวลาไปทำหนังสือเดินทางใหม่อีกอย่างน้อย 3 วันทำการ | |
ตัวอย่างการนับอายุคงเหลือของหนังสือเดินทาง | |
ต้องการเดินทางเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นใน วันที่ 10 ตุลาคม 2553 | |
หนังสือเดินทางต้องไม่หมดอายุก่อน วันที่ 10 เมษายน 2554 |
5. | รูปถ่าย |
ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 1 รูป ถ่ายมาไม่เกิน 6 เดือน โดยต้องเป็นรูปถ่ายหน้าตรง เป็นรูปสีหรือขาวดำ แต่ฉากหลังต้องเป็นสีขาวไม่มีลวดลายเท่านั้น ไม่ยิ้ม ไม่ใส่แว่นดำ ไม่เอียงคอ ไม่เอียงซ้ายหรือขวา ชัดเจน และติดรูปลงในใบคำร้องขอวีซ่า |
6. | หลักฐานการทำงาน |
พนักงานบริษัทเอกชนใช้จดหมายรับรองการทำงานจากฝ่ายบุคคล ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษนะ ส่วนเงินเดือนจะระบุหรือไม่ระบุก็ได้ โดยทั่วไปจะระบุตำแหน่ง วันที่เริ่มทำงาน อัตราเงินเดือน และวันลาหยุดงาน ยื่นหลักฐานฉบับจริงเท่านั้น สำหรับพนักงานบริษัทมหาชน ข้าราชการ หรือ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ถ้ามีเงินเดือนเกิน 20,000 บาท แล้วระบุลงไปในจดหมาย จะได้รับสิทธิ์ไม่ต้องแสดงสมุดบัญชี | |
เจ้าของกิจการใช้หนังสือรับรองบริษัทที่ออกจากกระทรวงพาณิชย์ ออกมาไม่เกิน 2 เดือน ถ้าเกินต้องไปขอใหม่ ยื่นฉบับจริงพร้อมสำเนา | |
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น ช่างภาพอิสระ ค้าขายทั่วไป พิมพ์จดหมายภาษาอังกฤษ อธิบายที่มาของรายได้ว่าประกอบอาชีพอะไร ที่ไหน และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก โดยยื่นฉบับจริงเท่านั้น | |
นักเรียนนักศึกษา (อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป) ใช้หนังสือรับรองจากสถานศึกษาฉบับจริงภาษาอังกฤษ และใช้หลักฐานการทำงานของผู้ปกครองแนบไปด้วย | |
แม่บ้าน ใช้หลักฐานการทำงานของสามี หรือผู้อุปการะ |
7. | หลักฐานการเงิน |
สมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือฝากประจำที่อัพเดตให้เป็นปัจจุบัน ฉบับจริงพร้อมสำเนา (ทุกหน้า) | |
*สำหรับผู้ที่เคยเดินทางเข้าญี่ปุ่นภายใน 5 ปี ไม่ต้องแสดงสมุดบัญชีหรือสำเนา |
8. | ทะเบียนบ้าน |
ฉบับจริงพร้อมสำเนา 1 ชุด ถ้าหากไม่สะดวกในการนำทะเบียนบ้านฉบับจริงมายื่นขอวีซ่าที่ JVAC ก็สามารถไปขอคัดทะเบียนบ้านจากสำนักงานเขตที่เราสะดวก ซึ่งถือเป็นฉบับจริงและสามารถนำไปยื่นขอวีซ่าญี่ปุ่นได้เช่นกัน | |
*สำหรับผู้ที่เคยเดินทางเข้าญี่ปุ่นภายใน 5 ปี ไม่ต้องแสดงทะเบียนบ้านฉบับจริงหรือสำเนา |
9. | หลักฐานอื่นๆ |
ทะเบียนสมรส, ใบหย่า และใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ถ้ามีต้องนำฉบับพร้อมสำเนาไปยื่นด้วย โดยเฉพาะผู้ที่จะเดินทางเข้าญี่ปุ่นครั้งแรก | |
*สำหรับผู้ที่เคยเดินทางเข้าญี่ปุ่นภายใน 5 ปี ไม่ต้องแสดงหลักฐานอื่นๆ เหล่านี้ ยกเว้นกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงภายหลังจากการเดินทางเข้าญี่ปุ่นครั้งที่แล้ว |
กรณีเคยเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นและพักอยู่ไม่เกิน 15 วัน ซึ่งจะตรวจสอบได้จากตราประทับกองตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่นในหนังสือเดินทาง หากต้องการยื่นวีซ่าญี่ปุ่นสำหรับไปพักไม่เกิน 15 วันอีกครั้ง จะได้รับการยกเว้นเอกสารประกอบการยื่นวีซ่าบางอย่าง (ต้องสามารถแสดงตราประทับเข้า – ออกประเทศญี่ปุ่นครั้งสุดท้ายได้) โดยไม่ต้องแสดงเอกสารข้อ 7 – 9
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าญี่ปุ่นเพิ่มเติม: http://www.jp-vfsglobal-th.com/thai/tourist_documents.html
ค่าธรรมเนียมวีซ่าญี่ปุ่น (ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2556)
ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่น ควรเตรียมค่าธรรมเนียมวีซ่าและค่าดำเนินการของ JVAC ไปให้พอดีในวันยื่นวีซ่า เนื่องจากทาง JVAC จะรับชำระเงินทันทีในวันที่รับคำร้องขอวีซ่า และจะรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น
Single Visa (Baht) | Multiple Visa (Baht) | Transit Visa (Baht) |
1,120 | 2,240 | 260 |
*ไม่รวมค่าดำเนินการของ JVAC 535 บาท
**สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าญี่ปุ่น (ไม่รวมค่าดำเนินการของ JVAC)
ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่น (JVAC)
สำหรับผู้ที่อยู่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงสามารถยื่นวีซ่าได้ที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่น หรือ JVAC
ที่อยู่ | : ชั้น 15 ยูนิต C อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ถ.สีลม โทร. 02-632-1541-4 |
Email info.jpth@vfshelpline.com | |
Website http://www.jp-vfsglobal-th.com | |
การยื่นคำร้อง | : วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.30 – 17.30 น. (ไม่มีพักกลางวัน) |
การคืนหนังสือเดินทาง | : วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.30 – 17.30 น. (ไม่มีพักกลางวัน) |
วันเสาร์ เวลา 08.30 – 12.30 น. | |
ระยะเวลาดำเนินการ | : อย่างน้อย 5 วันทำการนับจากวันที่รับยื่นคำร้อง (หากเป็นช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือฤดู ท่องเที่ยว ควรเผื่อเวลาในการยื่นวีซ่าไว้ล่วงหน้า) |
ทาง JVAC เปิดให้ยื่นคำร้องผ่านที่ทำการไปรษณีย์ในส่วนภูมิภาค 6 แห่ง สามารถไปยื่นคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่นได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามายื่นที่กรุงเทพฯ
ไปรษณีย์ภูเก็ต | : 12/16 ถ.มนตรี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 |
ไปรษณีย์ศรีราชา | : 7/1 ถ.เจิมจอมพล ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110 |
ไปรษณีย์อยุธยา | : 123 ม.5 ถ.อู่ทอง ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000 |
ไปรษณีย์ระยอง | : 125 ถ.สุขุมวิท ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง 21000 |
ไปรษณีย์นครราชสีมา | : 371 ถ.อัษฎางค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา 30000 |
ไปรษณีย์พิษณุโลก | : 118 ถ.พุทธบูชา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000 |
สำหรับผู้ที่ทำงานอยู่ใน 9 จังหวัดภาคเหนือ (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ น่าน และอุตรดิตถ์) ต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าที่สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่
ขั้นตอนการยื่นวีซ่าญี่ปุ่น
เมื่อเตรียมเอกสารประกอบการยื่นวีซ่าพร้อมแล้ว ตรวจสอบสถานที่ที่จะต้องไปยื่นวีซ่าให้ถูกต้อง และมั่นใจแล้วว่าไม่ใช่วันหยุดทำการ ก็ดำเนินการยื่นวีซ่าได้เลย ซึ่งหากยื่นวีซ่าที่ JVAC ก็จะมีขั้นตอนดังนี้
1. นำเอกสารที่เตรียมไว้ไปที่ JVAC
2. ยื่นคำร้องและเลือกวิธีการรับหนังสือเดินทางคืน
3. รับเอกสารฉบับจริงคืน
4. ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าและค่าบริการของ JVAC
5. รับใบนัดฟังผล
หากยื่นวีซ่าที่ที่ทำการไปรษณีย์ ต้องกรอก Pay-in-slip เพิ่ม ซึ่งรับเอกสาร Pay-in-slip ได้ที่ที่ทำการนั่นเอง และดำเนินการยื่นวีซ่าตามขั้นตอนเหมือนกับการยื่นที่ JVAC รับสำเนา Pay-in-slip คืน ถือเป็นใบตอบรับการยื่นคำร้องและใบเสร็จรับเงิน ซึ่งสำเนา Pay-in-slip จะระบุหมายเลขบาร์โค้ดของ EMS ทั้งไปและกลับไว้ด้วย
การรับหนังสือเดินทางคืน
ผู้ยื่นวีซ่าญี่ปุ่นสามารถเลือกวิธีการรับหนังสือเดินทางคืนได้หลายวิธี
1. รับที่ JVAC กรุงเทพฯ (กรณียื่นขอวีซ่าที่ที่ทำการไปรษณีย์ สามารถเลือกรับหนังสือเดินทางคืนได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์นั้นๆ) โดยนำใบนัดฟังผล หรือ Pay-in-slip ฉบับจริงไปที่ JVAC
2. รับคืนที่ไปรษณีย์ใกล้บ้านหรือที่ทำงาน (ค่าบริการรวมภาษี 140 บาท) โดยนำ Pay-in-slip ฉบับจริงไปที่ที่ทำการไปรษณีย์
3. รับคืนทางไปรษณีย์ที่บ้านหรือที่ทำงาน (ค่าบริการรวมภาษี 140 บาท)
การติดตามการยื่นคำร้อง
ผู้ยื่นวีซ่าญี่ปุ่นที่ JVAC สามารถติดตามการยื่นคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่นได้ทาง http://www.jp-vfsglobal-th.com/thai/track.html เพียงใส่หมายเลขใบนัดฟังผลและวันเดือนปีเกิดของผู้ยื่นวีซ่า สำหรับผู้ที่ยื่นคำร้องที่ที่ทำการไปรษณีย์ ให้ใส่หมายเลขบาร์โค้ด EMS ขาเข้า แต่ถ้าติดตามแล้วมีข้อความขึ้นว่า “Application handed over to Courier” ให้ไปที่ www.thailandpost.com และใส่บาร์โค้ด EMS ขาออกแทน
วันหยุดทำการของ JVAC ประจำปี 2555
วันที่ | วัน | วันหยุด |
2 มกราคม | วันจันทร์ | วันหยุดชดเชยปีใหม่ |
3 มกราคม | วันอังคาร | วันหยุดชดเชยปีใหม่ |
7 มีนาคม | วันพุธ | วันมาฆบูชา |
6 เมษายน | วันศุกร์ | วันจักรี |
13 เมษายน | วันศุกร์ | วันสงกรานต์ |
16 เมษายน | วันจันทร์ | วันสงกรานต์ |
7 พฤษภาคม | วันจันทร์ | วันหยุดชดเชยวันฉัตรมงคล |
4 มิถุนายน | วันจันทร์ | วันวิสาขบูชา |
2 สิงหาคม | วันอังคาร | วันอาสาฬหบูชา |
23 ตุลาคม | วันอังคาร | วันปิยมหาราช |
5 ธันวาคม | วันพุธ | วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว |
10 ธันวาคม | วันจันทร์ | วันรัฐธรรมนูญ |
31 ธันวาคม | วันจันทร์ | วันหยุดสิ้นปี |